คำประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ของคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

คำประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ของคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหวเพื่อการประชาสัมพันธ์

คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

          คณะทันตแพทยศาสตร์ (“คณะฯ”) เคารพและให้ความสำคัญในสิทธิความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและมีความรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรนักศึกษาทันตแพทย์ ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของคณะฯ ในการถ่ายนิ่งและภาพเคลื่อนไหวเพื่อการประชาสัมพันธ์ด้วยวิธีการที่มั่นคงปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ในการนี้ คณะฯจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว (เพื่ออธิบายถึงวิธีการปฏิบัติต่อการถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวเพื่อการประชาสัมพันธ์ และชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ พร้อมแจ้งสิทธิต่าง ๆ ของท่าน ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
ข้อ  1.  ประเภทและแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคล
   คณะฯมีความจำเป็นต้องทำการประมวลผลข้อมูลภาพ ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวของ ผู้ให้สัมภาษณ์/แสดงความคิดเห็น ผู้ที่ได้รับรางวัล บุคลากร นักศึกษาทันตแพทย์ (“ท่าน”) ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะฯ ประมวลผลอาจเป็นการภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหว ระหว่างการสัมภาษณ์ การอบรม การเรียน บรรยากาศระหว่างการจัดกิจกรรม หรือการถ่ายภาพรวม (ภาพหมู่) เมื่อเสร็จสิ้นการจัดกิจกรรม (“กิจกรรม”) ซึ่งถูกจัดเก็บไว้ในรูปแบบกระดาษ หรือรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์บนอุปกรณ์บันทึกข้อมูลของคณะฯ ซึ่งในการบันทึกข้อมูลอาจรวมถึงข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล เช่น ชื่อ นามสกุล ตำแหน่งของเจ้าของภาพ และข้อมูลกิจกรรม สถานที่ วันที่ เวลา ที่ปรากฏบนภาพ ในกรณีที่เป็นการบันทึกภาพถ่ายของท่าน  คณะฯจะขออนุญาตจากท่าน เมื่อคณะฯได้ทำการคัดเลือกภาพถ่ายนั้นไปเปิดเผย เผยแพร่ประชาสัมพันธ์
 
ข้อ 2. วัตถุประสงค์ และฐานในการประมวลผลข้อมูล
ลำดับวัตถุประสงค์
1. การถ่ายภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหว ที่ไม่ใช่ลักษณะการถ่ายภาพเจาะจง เฉพาะบุคคล และการถ่ายภาพบรรยากาศการจัดกิจกรรม (ภาพหมู่) งานนิทรรศการ บรรยากาศการเรียน และการจัดอบรม ประชุม เพื่อวัตถุประสงค์ในการสื่อสาร และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับการจัดกิจกรรม การเรียนการสอนของคณะฯผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ เฟสบุค อินสตราแกรม สื่อ ช่องทางออนไลน์อื่น ๆ รวมถึงช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ของคณะฯ
2 .การถ่ายภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหว ในลักษณะเจาะจง หรือเป็นภาพนิ่งเฉพาะบุคคล ผลงาน เพื่อประกอบภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหว เพื่อนำไปใช้ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์   ตามความเหมาะสมและตามวัตถุประสงค์ของคณะฯ เช่น การโฆษณา การประชาสัมพันธ์  ผ่านช่องทางต่าง ๆ  เช่น เว็บไซต์ เฟสบุค อินสตราแกรม สื่อ ช่องทางออนไลน์อื่น ๆ รวมถึงในที่สาธารณะชนต่าง ๆ ตามความยินยอม
3. การถ่ายภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหว ในกรณีที่เป็นการบันทึกภาพถ่ายสำคัญ เนื่องจากเป็นผู้โชคดีในการรับรางวัล หรือเป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับรางวัลใด ๆ ในการจัดกิจกรรม การติดต่อเพื่อส่งมอบของรางวัล การเข้าร่วมสนุกในกิจกรรม  การจัดอบรม ประชุมสัมมนา ทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ หรือการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่คณะฯกำหนดเงื่อนไขข้อผูกพันก่อนการเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อวัตถุประสงค์ในการสื่อสาร และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ประกาศให้บุคคลอื่นทราบ เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมของคณะฯผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ ที่คณะฯเห็นสมควร
 
ข้อ 3. การเปิดเผยข้อมูลภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหว
3.1 คณะฯอาจเปิดเผยข้อมูลภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหวของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดให้แก่บุคคลและหน่วยงาน ดังต่อไปนี้
1.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตามรายชื่อที่ปรากฏบนเว็บไซต์ www.psu.ac.th ที่มีข้อตกลงร่วมกัน ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภายในของคณะฯดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็น
3.2 คณะฯจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และจะดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ รวมถึงจะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดในประกาศฉบับนี้
 
ข้อ 4. การส่งหรือโอนภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวไปต่างประเทศ
   คณะฯอาจเก็บภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูปและรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่คณะฯ จะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
   ในกรณีที่คณะฯ ส่งหรือโอนภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ คณะฯจะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์กรระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณี คณะฯอาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว
 
ข้อ 5.  ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
5.1 คณะฯจะเก็บข้อมูลภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวส่วนบุคคลเท่าที่มีความจำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ของการประมวลผล ตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ แบ่งได้ดังนี้
1.กรณีที่คณะฯ ใช้ข้อมูลภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน คณะฯจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอม
2.กรณีอื่น ๆ คณะฯจะเก็บรักษาข้อมูลภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นตามสมควรเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ของคณะฯ และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ กรณีที่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน คณะฯจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลา(5ปี)
5.2 เมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดแล้ว คณะฯจะดำเนินการลบ ทำลาย ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูล      ที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
 
ข้อ 6. สิทธิของเจ้าของภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว
   คณะ ฯ เคารพสิทธิส่วนบุคคลของท่าน และเปิดโอกาสให้ท่านสามารถเลือกวิธีการควบคุม หรือวิธีการที่คณะฯใช้ติดต่อท่าน โดยคณะฯจะปฏิบัติตามที่ท่านได้ร้องขอ เพื่อช่วยให้เกิดความโปร่งใส และเพื่อคุณภาพของภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยท่านสามารถส่งคำขอให้คณะฯทราบเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางที่คณะฯกำหนดในการดำเนินการตามสิทธิ ดังต่อไปนี้
1. สิทธิขอถอนความยินยอม: หากท่านได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น)  ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับคณะฯ
2. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของคณะฯ และขอให้คณะฯทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้คณะฯเปิดเผยว่าคณะฯได้มาอย่างไร เว้นแต่กรณีที่คณะฯมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมาย หรือคำสั่งของศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
3. สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้โอนข้อมูลภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่คณะฯได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้คณะฯส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะฯส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
4. สิทธิขอคัดค้าน: ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็น หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นโดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล
6. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ หากท่านประสงค์จะขอแก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว คณะฯจะทำการแก้ไขเฉพาะรายการข้อมูลที่เกี่ยวกับภาพของท่านเพื่อให้ถูกต้อง ตามความจำเป็นของคณะฯ
 
ข้อ 7.  วิธีการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล
 7.1  การร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านจะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งคณะฯได้จัดให้มีขึ้นในเว็บไซต์ของคณะฯ หรือกรอกข้อมูลผ่านแบบฟอร์มคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวส่วนบุคคล หรือในกรณีท่านประสงค์ใช้สิทธิถอนความยินยอมสามารถกรอกข้อมูลผ่านแบบฟอร์มคำขอถอนความยินยอม
    ทั้งนี้ คณะฯจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลา 30 วัน นับแต่ได้รับคำร้อง อย่างไรก็ดี คณะฯมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่าน ในกรณีที่มีข้อยกเว้นตามกฎหมาย หรือคณะฯจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาได้ หรือมีผลกระทบกับการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา
 7.2 คณะฯจะพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของท่าน เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการตามคำร้องขอนั้นเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้ใช้งานรายอื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือนโยบายความปลอดภัยของระบบ  หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอ เนื่องมาจากเหตุทางเทคนิค      
 7.3 หากเป็นกรณีกิจกรรมที่คณะฯถ่ายภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวของท่านตามฐานการปฏิบัติตามสัญญา หรือฐานเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย คณะฯมีสิทธิปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านในกรณีที่ท่านใช้สิทธิโต้แย้ง หรือขอระงับการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน และขอให้ดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านได้ รวมถึงคณะฯอาจปฏิเสธที่จะดำเนินการตามคำร้องขอของท่าน หากคณะฯมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลต่อไป เพื่อการกระทำการ ดังต่อไปนี้
   1.เพื่อทำรายการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์ที่คณะฯ เก็บรวบรวมภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวหรือดำเนินการตามสมควรภายในขอบเขตความสัมพันธ์ด้านต่าง ๆ ระหว่างคณะฯกับท่าน
   2.เพื่อใช้เป็นการภายในตามสมควรโดยสอดคล้องกับความคาดหมายของท่านที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับคณะฯ และสอดคล้องกับบริบทที่ท่านได้ให้ข้อมูลดังกล่าวไว้แต่แรก และเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ข้อบังคับ กฎ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง
7.4 ในกรณีที่ท่านเป็นผู้เข้าร่วมกิจกรรม และไม่ประสงค์ถูกบันทึกภาพ ท่านมีสิทธิที่จะขอรับและติดสัญลักษณ์ “ห้ามถ่ายภาพบุคคล” ตลอดการร่วมกิจกรรม ทั้งนี้ คณะฯขอเรียนให้ทราบว่าด้วยลักษณะการจัดกิจกรรมอาจมีการถ่ายภาพบรรยากาศกิจกรรม ซึ่งแม้ท่านขอรับสัญลักษณ์ดังกล่าวแล้วก็ตาม ก็อาจปรากฎภาพของท่านเป็นส่วนประกอบของภาพได้ ดังนั้น คณะฯจึงแนะนำให้ท่านแจ้งต่อคณะฯเพื่อปฏิเสธขณะที่คณะฯกำลังบันทึกภาพ หรือหลีกเลี่ยงบริเวณที่บันทึกภาพ หรือไม่เข้าร่วมกิจกรรมขณะมีการบันทึกภาพ หรือภาพเคลื่อนไหว
7.5 คณะฯจำเป็นต้องแจ้งให้ทราบว่า การขอใช้สิทธิของท่านบางประการ อาจเกิดข้อจำกัด ในกรณีที่ข้อมูลภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวส่วนบุคคลนั้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อคณะฯในการปฏิบัติตามหน้าที่
 
ข้อ 8. มาตรการการรักษาความปลอดภัย
    คณะฯกำหนดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและวิธีปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศของคณะฯและนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
 
ข้อ 9. ช่องทางการติดต่อคณะฯ
     ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวด้านข้อมูลส่วนบุคคล และการติดต่อประสานงาน
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล หรือการใช้สิทธิของท่าน สามารถติดต่อได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
 
หน่วยงาน:  งานสื่อสารองค์กร
ที่อยู่: คณะทันตแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
เบอร์โทรศัพท์: 0-7428-7567
อีเมล: aunchalee.su@psu.ac.th
หรือสามารถติดต่อผ่าน คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คณะทันตแพทยศาสตร์
ที่อยู่ : 15 ถ.กาญจนวณิชย์ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110
เบอร์โทรศัพท์ : 074-287734
อีเมล : tasawan.r@psu.ac.th
 
 
                                   ประกาศ ณ วันที่ 21 กุมภาพันธ์  2566
 
 
    

Search